วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม


แบบฝึกหัด บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม

บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม                                      กลุ่มเรียนที่ 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                     รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล  นางสาวพิมพ์กนก  ภูจอมจิตร รหัส 55011315043 วิชาเอก LH     ระบบปกติ



คำชี้แจง  จงพิจารณากรณีศึกษา
     
     1) " นาย  A  ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP - Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง "
        การกระทำอย่างนี้เป็นการทำผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆหรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุได และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
         ตอบ เป็นการกระทำที่ผิด เพราะโปรแกรมนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการทดลองวิจัยเท่านั้น ไม่ได้มีการเผยแพร่ให้ใช้งานจริง ขณะเดียวกันคนที่นำไปใช้คือนาย B ซึ่งไม่ได้รับการเห็นชอบของนาย A ผู้พัฒนา โดยนำไปแกล้งนางสาว C ความผิดนี้ ถือเป็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและการนำโปรแกรมในการทดลองไปใช้จริง 
                 ต่อมานางสาว C ก็ถือว่ามีความผิด ที่เผยแพร่โปรแกรมทดลองนี้ต่อไปอีก เป็นการกระจายโปรแกรมออกไปอีก ซึ่งในทางจริยธรรมแล้ว นาย B เป็นคนผิดที่เริ่มนำโปรแกรมไปใช้ก่อน นางสาว C รู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงเผยแพร่โปรแกรมออกนั่นเอง ทำให้ผิดจริยธรรมเพราะการสร้างโปรแกรมขึ้นมาแล้วใช้แกล้งคนอื่นโดยไม่เกิดประโยชน์และทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายก่อกวนระบบถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม

      2) " นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐานอ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J "
         การกระทำอย่างนี้เป็นการทำผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหนจงอธิบาย
         ตอบ  การกระทำของนาย J ผิดจริยธรรมตรงที่ทำข้อมูลเท็จหลอกลวงผู้อื่น เป็นการกระทำที่ขาดการยั้งคิด ทำโดยคิดถึงแต่ความสนุกสนานของตนไม่นึกถึงผลที่ตามมา ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อเด็กชาย K ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้มีการวิเคราะห์สารที่ได้รับมาก่อน ทำให้ทำงานส่งครูไปแบบผิดๆ การกระทำนี้จึงผิดทั้งสองคน โดยนาย J ที่ทำโดยไม่ยั้งคิด สร้างความเดือนร้อนให้ผู้อื่น เห็นแก่ตัว ส่วนเด็กชาย K นั้นก็ผิดที่ไม่ได้วิเคราะห์สารที่ได้รับหรือค้นคว้าหาข้อมูลให้ดี จึงถือว่าเด็กชาย K ทำงานโดยสะเพร่าขาดความรอบคอบและไม่รู้จักใช้วิจารณญาณหรือความรู้รอบตัวให้ดีพอส่งผลให้ตนเดือดร้อนทำงานผิดไปส่งครูนั่นเอง  เพราะหากเด็กชาย K หาข้อมูลจากเว็บไซต์หรือเอกสารอื่นๆเพิ่มเติมก็จะส่งผลให้เกิดข้อแตกต่างและรู้จักสืบค้นหาความข้อเท็จจริงได้ในที่สุด 

แบบฝึกหัด บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ


แบบฝึกหัด บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ

บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ                                                      กลุ่มเรียนที่ 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล นางสาวพิมพ์กนก  ภูจอมจิตร รหัส 55011315043 วิชาเอก LH     ระบบปกติ


 คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้



      1. หน้าที่ของไฟร์วอลล์ (Firewall) คือ
         ตอบ เป็นระบบรักษาความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์แบบหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย 
ซึ่งมีทั้งอุปกรณ์ Hardware และ Software โดยหน้าที่หลัก ๆ ของ Firewall นั้น จะทำหน้าที่ควบคุมการใช้งาน
ระหว่าง Network ต่าง ๆ

      2.จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้ ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm , virus computer , spy ware, adware 
มาอย่างน้อย 1 โปรแกรม
        ตอบ Worm เป็นไวรัสประเภทหนึ่งที่ก่อกวนระบบสามารถทำสำเนาตัวเอง (copy) และแพร่กระจายไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
เครื่องอื่นๆได้ ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวและในระบบเครือข่ายเสียหายไวรัส " วอร์ม " นี้ปัจจุบันมีหลากหลายมาก มีการแพร่กระจายของไวรัสได้รวดเร็วมาก ทั้งนี้เนื่องจากไวรัส " วอร์ม " จะสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Outlook Express หรือ Microsoft Outlook

     3.ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
         ตอบ แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ Application viruses และ System viruses

     4.ให้นิสิตอธิบายแนวทางในการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 5 ข้อ
         ตอบ  1.สร้างแผ่นรีบูต emergency disk เพื่อใช้ช่วยในการกู้ระบบ การสร้างแผ่น emergency disk

หรือบางครั้งอาจเรียกว่า Rescure disk นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเครื่องติดไวรัสที่ไม่สามารถ
จะกำจัดได้โดยผ่านระบบปฏิบัติการวินโดวส์โดยตรง หรือผลกระทบของไวรัสที่ทำให้เครื่องไม่สามารถรีบูต
ได้ตามปกติเราก็สามารถใช้แผ่น emergency disk มาช่วยในการกู้ข้อมูลและกำจัดไวรัสออกจนทำ
ให้รีบูตเครื่องได้ตามปกติ 
                 2.ปรับปรุงฐานข้อมูลไวรัสทุกวันหรืออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนหัวใจ
ของการใช้งานโปรแกรมป้องกันไวรัส เนื่องจากไวรัสคอมพิวเตอร์ถูกพัฒนาออกมาใหม่ทุกวัน 
ดังนั้นจึงควรที่จะสอนโปรแกรมป้องกันไวรัสให้รู้จักไวรัสชนิดใหม่ๆด้วย โดยการปรับปรุงฐานข้อมูล
ไวรัสที่ใช้งานนั่นเอง 
                 3.เปิดใช้งาน auto - protect โดยส่วนใหญ่โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ติดตั้งจะทำการสร้าง
โพรเซสที่จะตรวจหาไวรัสตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสสามารถถูกเอ็กซิคิวต์ในเครื่องได้
                4.ก่อนเปิดไฟล์จากแผ่นที่นำมาใช้จากที่อื่นให้สแกนหาไวรัสก่อน แผ่นดิสก์ที่นำไปใช้ที่อื่นแล้ว
นำกลับมาเปิดที่เครื่อง จะมั่นใจได้อย่างไรว่าแผ่นนั้นไม่มีไวรัสอยู่ ดังนั้นควรจะตรวจหาไวรัสใน
แผ่นก่อนที่จะเปิดอ่านข้อมูลที่ถูกบรรจุในแผ่นดิสก์ดังกล่าว
               5.ทำการตรวจหาไวรัสทุกสัปดาห์ ในแต่ละสัปดาห์แน่นอนว่ามีไฟล์ที่ผ่านเข้าออกเครื่องมาก
มายไม่ว่าจะเป็น อีเมล์ที่ได้รับ ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต ตลอดจนไฟล์ชั่วคราวของ
โปรแกรมเว็บบราวเซอร์ที่เก็บในแต่ละครั้งที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าไฟล์เหล่า
นั้นไม่มีไวรัสแฝงตัวมา ดังนั้นจึงควรที่จะทำการตรวจหาไวรัส โดยการสแกนหาทั้งระบบ อาจจะเป็น
ทุกเย็นของวันศุกร์ก่อนกลับบ้านก็เป็นได้

     5.มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบันได้แก่
        ตอบ 1. กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
                2. กฏหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
                3. กฏหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
                4. กฏหมายการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทอนิกส์
                5. กฏหมายลายมือชื่ออิเล็กทอนิกส์
                6. กฏหมายการโอนเงินทางอิเล็กทอนิกส์
                7. กฏหมายโทรคมนาคม
                8. กฏหมายระหว่างประเทศ
                9. กฏหมายเกี่ยวเนื่องกับระบบอินเตอร์เน็ต
              10. กฏหมายพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556


15 เรื่องลับในมหาวิทยาลัย


มหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลก คือ มหาลัยโบลัญญ่า ที่กรุงโรมอิตาลี ( ในฝั่งยุโรป )
หลาย มหาวิทยาลัย ต่างก็มีเรื่องราว ตำนานลึกลับเป็นของตัวเอง ซึ่งบางเรื่องก็น่าเหลือเชื่อจนไม่น่าเชื่อ วันนี้ ก็มีเรื่องลับๆ ของ มหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย ที่ ใครหลายๆคนยังไม่เคยรู้มาก่อนมาฝากกันอีกแล้วนะค่ะ มันจะลับและแปลกขนาดไหนเราไปดูกันเลยดีกว่า
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย008
 เรื่องลับในมหาวิทยาลัย ลาดกระบัง
  • มหาวิทยาลัยลาดกระบัง เป็น มหาวิทยาลัย เดียวที่มีทางรถไฟตัดผ่านกลาง มหาวิทยาลัย
  • ห้องน้ำหญิงชั้นบนสุด ตึกA คณะวิศวะที่ลาดกระบัง มี ศาลพระภูมิอยู่ 
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย009
 เรื่องลับในมหาวิทยาลัย บูรพา
คำว่า ” ไปสดใส ” ในความหมายของเด็ก มหาวิทยาลัยบูรพา คือ ไปกินข้าว เล่นเนต พิมพ์งาน เหล่หญิง
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย010
 เรื่องลับในมหาวิทยาลัย เชียงใหม่
  •  หอหญิงสอง และ สาม ที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นตึกรูปแปดเหลี่ยม และ รูปสายฟ้า เพราะสร้างบนเมืองเก่า จึงออกแบบมาเพื่อแก้เคล็ด !
  • รถโดยสารของ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะเรียกว่า ขส.มช.
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย011
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย ABAC
นักศึกษาเอแบค ที่จำเป็นต้องใส่รองเท้าแตะ หรือ หญิงที่ต้องการแต่งชาย ชายต้องการจะแต่งหญิง ต้องทำใบขออนุญาติจากทาง มหาวิทยาลัย 
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย012
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย เกษตร
  • กระโปรงนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตร รุ่นแรกๆ เป็นสีเขียว
  • ตำนานว่า ถ้าหนุ่มสาวคู่ไหนขี่จักรยานผ่าน loving way ทางเล็กๆที่มีทิวสนเสริมความโรแมนติกข้างทางคณะเกษตรจะได้เป็นแฟนกัน
  • แต่ถ้าเกิดหลงเข้าไปใน black way จะเลิกกันทันที
  • รถโดยสารของ มหาวิทยาลัยเกษตร จะเรียกว่า รถตะลัย ซึ่งมีชื่อเรียกเต็มๆว่า รถตระเวณทั่วมหาลัย 
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย013
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิต
  • อนุญาติให้ผู้หญิงใช้สระว่ายน้ำได้เท่านั้น 
  • ตำรวจจราจรคนหนึ่ง ที่หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ถูก นักศึกษา เรียกว่า ลุงโดเรมอน เพราะรูปร่างคล้าย ๆ
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย014
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย รังสิต
  • เมื่อก่อน มหาวิทยาลัยรังสิต ไม่มีรั้ว แต่มีรถจอดอยู่หน้า มหาวิทยาลัย คนจึงคิดว่า ที่จอดรถนั้นเป็นรั้ว
  • มหาวิทยาลัยรังสิต มีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเอง 
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย015
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย มหิดล
สัญลักษณ์ของ คณะวิศวะ มหาวิทยาลัยมหิดล ไม่ใช่เกียร์ นะแต่เป็น น้อตตัวเมีย 
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย016
เรื่องลับในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
  • มีความเชื่อว่า หากได้ลอยกระทงกับคนที่ชอบที่ จุฬา จะได้เป็นแฟนกัน แต่ถ้าเป็นแฟนกันแล้วมาลอยจะเลิกกัน 
  • โบราณว่า ถ้าฝันเห็น พระเกี้ยวจะตื่นมาเจอหลักศิลาจารึก
  • รถโดยสารภายใน จุฬา เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ป็อบ ซึ่งมีที่มาจากรถปอ.พ 
  • การพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกของไทย จัดที่ห้องประชุมตึกบัญชาการ หรือตึก หนึ่ง คณะอักษรศาตร์ จุฬา ในปัจจุบัน
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย017
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย ศิลปากร
รู้หรือไม่ ? เพลงประจำ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นภาษาอิตาลี  ไม่เชื่อลองฟัง
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย018
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย รามคำแหง
มีข้อแนะนำว่า วันที่ไปสมัครเข้าเรียน ไม่ควรมพาผู้ปกครองไปด้วย
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย019
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย กรุงเทพ
โรงละคร แบลค บอกซ์ ที่ ม.กรุงเทพ เป็น โรงละครที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย020
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย หอการค้าไทย
นักศึกษาที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชื่อว่า ” ห้ามสบตาเต่าในบ่อน้ำไม่งั้นจะเรียนไม่จบ ” 
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย021
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์
  • ร้านน้ำชาสุดฮิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ชื่อ สวนลุงเจิม เชื่อว่า ” ถ้าใครตกปลาที่บ่อน้ำของ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว คนนั้นจะติด F ”  
  • ไข่ต้ม เป็นสิ่งที่ นักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำมาแก้บน กับ อนุสาวรีย์พระบิดา
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย002
เรื่องลับในมหาวิทยาลัย ปัตตานี
เชื่อว่า ถ้าเหยียบเส้นที่ถนนตรงซุ้มแดงหน้าตึก 19 จะเหมง (ไม่มีแฟน)



ที่มา: http://teen.mthai.com/variety/48736.html
www.itplaza.co.th

เรื่องราวแปลกๆ ของ ฝาแฝด

เรื่องราวของฝาแฝดมีเสน่ห์ดึงดูดคนมาทุกยุคทุกสมัย แต่บางครั้งก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับฝาแฝดที่แปลกเสียจนไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงได้

ฝาแฝดที่เกิดเสียสติขึ้นมาพร้อมๆ กัน

176682_v1
ที่มาภาพ cracked

ฝาแฝดชาวสวีเดน Ursula Eriksson และ Sabina Eriksson ใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆ และสงบสุขมาตลอด ทั้งคู่ไม่เคยมีประวัติป่วยทางประสาทมาก่อน แต่แล้ววันหนึ่ง Ursula ก็เดินทางจากประเทศอเมริกาไปยังประเทศไอร์แลนด์เพื่อเยี่ยมฝาแฝดของเธอ แล้วอยู่ๆ ทั้งคู่ก็เกิดอาการบ้าคลั่งก้าวร้าวออกมา ผลที่ตามมาคืออุบัติเหตุทางถนนหลายรายการ ผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และตำรวจที่มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
Sabina และ Ursula เจอกันที่ประเทศไอร์แลนด์ก่อนจะขึ้นรถบัสไปยังลอนดอนโดยไม่มีใครรู้สาเหตุ มีรายงานว่าทั้งคู่ทำตัวเป็นอันธพาลถึงขนาดถูกคนขับรถบัสไล่ลงจากรถกลางทาง แต่พวกเธอก็ไม่ได้สนใจและพากันเดินต่อไปกลางถนนโดยไม่สนใจรถที่วิ่งไปวิ่งมาด้วยความเร็วสูง
จนถึงจุดหนึ่ง ทั้งคู่ก็วิ่งเข้าใส่กลุ่มตำรวจที่กำลังถ่ายทำรายการโทรทัศน์กันอยู่ ทำให้พฤติกรรมของพวกเธอถูกบันทึกไว้ในกล้องทั้งหมด เริ่มจากที่พวกเธอกำลังเดินอยู่เฉยๆ จู่ๆ ก็วิ่งเข้าใส่รถบนท้องถนน Sabina ถูกรถคันหนึ่งชนเข้าให้ แต่เธอก็ลุกขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าไปโจมตีใส่กลุ่มตำรวจที่กำลังยืนอึ้งกันอยู่ ต้องใช้ตำรวจถึง 6 คนในการจับตัวเธอไว้ ในขณะที่ Ursula ก็มีท่าทีจะโจมตีใส่ตำรวจเหมือนกัน แต่เนื่องจากบาดเจ็บจากที่ถูกรถชนทำให้เธอทำอะไรไม่ได้มากนัก
176683
ที่มาภาพ cracked

หลังจากนั้น Sabina ก็กลับมาสงบลงอีกครั้งและดูเป็นปกติดีจนตำรวจตัดสินใจปล่อยเธอไปในวันถัดมา ซึ่งนี่ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เพราะไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เธอไปฆาตกรรมผู้ชายคนหนึ่งเข้า แล้วก็กระโดดลงมาจากสะพานที่สูง 40 ฟุต อย่างไรก็ตาม Sabina ก็รอดชีวิตมาได้และถูกสั่งจำคุกเป็นเวลา 5 ปี สาเหตุที่เธอถูกจำคุกน้อยกว่าที่ควร ก็เพราะทนายพิสูจน์ได้ว่าเธอมีอาการวิกลจริตในขณะที่ก่อเหตุ แต่ที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ก็คือ ถ้า Sabina มีอาการวิกลจริต ทำไมอยู่ๆ Ursula ถึงเป็นไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่พบแอลกอฮอลล์หรือสารเสพติดอยู่ในร่างกายของทั้งคู่
sabina-erikssonSabina Eriksson
ที่มาภาพ 12160
จากที่นักจิตวิทยาได้บอกว่า หนึ่งในฝาแฝดมีอาการของการวิกลจริตแบบชั่วคราว และก็เอาอาการนี้ไปติดฝาแฝดอีกคนได้


ฝาแฝดที่ไม่ได้โตมาด้วยกัน แต่ใช้ชีวิตเหมือนกัน

nelson-twins-2-lst075225
ที่มาภาพ edinburghfestival

มักมีเรื่องราวแปลกๆ เกี่ยวกับฝาแฝดอยู่เสมอ เพราะไม่ใช่หน้าตาที่เหมือนกันเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ทั้งสองยังเติบโตมาด้วยกัน ในสภาพแวดล้อมแบบเดียวกัน ทำให้ฝาแฝดบางคู่เหมือนกันจนน่ากลัว แต่ยังมีบางกรณีที่ฝาแฝดไม่เคยได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่กลับมีอะไรที่เหมือนกันแบบไม่น่าเกิดขึ้นได้
James Edward Lewis อาศัยอยู่ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาแต่งงานกับกับผู้หญิงที่ชื่อ Linda แต่ก็หย่ากับเธอแล้วแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่ชื่อ Betty ซึ่งทั้งคู่มีลูกชายชื่อ James Alan ด้วยกัน
Lewis ถูกครอบครัวอุปถัมภ์รับเลี้ยงไปตั้งแต่ตอนเป็นทารก และเมื่อเขาอายุได้ 30 ปลายๆ เขาก็ออกสืบหาครอบครัว และตอนนั้นเองที่เขาได้พบกับฝาแฝดของเขา James Arthur Springer ผู้ที่ถูกตั้งชื่อเหมือนกัน นอกจากนั้น ฝาแฝดของเขายังแต่งงานกับผู้หญิงที่ชื่อ Linda ก่อนจะหย่าแล้วไปแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่ชื่อ Betty และมีลูกชายชื่อ James Alan เหมือนกันเป๊ะๆ
JimtwinsJames Edward Lewis และ James Arthur Springer
ที่มาภาพ dnatestingblog

มีการเผยแพร่เรื่องราวของทั้งคู่ในปี ค.ศ.1979 James และ James (งงดีแท้ๆ) ได้รับการติดต่อจาก Thomas Bouchard ซึ่งเป็นนักจิตวิทยาที่สนใจอยากทำการศึกษาความเหมือนกันของฝาแฝดที่ไม่ได้เติบโตมาด้วยกัน ผลจากการศึกษากลับน่าทึ่งยิ่งกว่านั้น เมื่อพบว่าทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันมากกว่านั้น ตอนเด็กๆ ทั้งคู่เคยมีสุนัขที่ชื่อ Toy สมัยเรียนชอบวิชาคณิตศาสตร์และงานช่างไม้แต่ไม่ชอบวิชาสะกดคำ ทั้งคู่ทำงานเกี่ยวกับกฏหมาย (นายอำเภอและหน่วยรักษาความปลอดภัย) ในหนึ่งวันชอบมีอาการปวดหัวในเวลาเดียวกัน
176689James Edward Lewis และ James Arthur Springer
ที่มาภาพ dnatestingblog

เรื่องแบบนี้อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่ก็มีอีกหลายกรณีที่พบว่า ฝาแฝดที่ถูกเลี้ยงดูมาแยกกันสุดท้ายแล้วก็ยังคงมีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน


ฝาแฝดที่รับโทษแทน

jail_photo
ที่มาภาพ edudemic
ในปี ค.ศ.1993 ตำรวจจับกุม Ronald Anderson ในข้อหาทำร้ายร่างกายภรรยา ปัญหาก็คือ นาย Ronald Anderson คนนี้ถูกจับในข้อหาเดียวกันไปก่อนหน้านั้นแล้วไม่กี่วัน และมีบันทึกไว้ว่าเขากำลังถูกคุมขังอยู่เป็นเวลาอีก 6 เดือนในคุก และเมื่อมีคนไปตรวจสอบดู เขาก็ยังคงอยู่ในคุกไม่ได้หายไปไหน
ก่อนที่ทุกคนจะมึนกันไปมากกว่านี้ เพื่อนของเขาก็ออกมาเปิดเผยความจริงว่า Ronald มีฝาแฝดชื่อ Donald Anderson ผู้มีนิสัยชอบเข้าคุกแทนฝาแฝดของตัวเอง
176686_v1Donald Anderson ถือภาพถ่ายตัวเองกับฝาแฝด
ที่มาภาพ google

สาเหตุที่ Donald ยอมติดคุกแทนเพราะเขารักฝาแฝดของตัวเองมาก และคิดว่า Ronald ไม่พร้อมสำหรับชีวิตในคุก เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1970 เมื่อ Ronald สมัครไปเป็นทหารและจะถูกส่งไปประจำการที่เกาหลีในหน้าที่ช่างเทคนิคซ่อมเฮลิคอปเตอร์ แต่อยู่ๆ เขาก็เกิดเปลี่ยนใจไม่อยากไปแล้วเสียอย่างนั้น Donald ฝาแฝดของเขาจึงตัดสินใจสวมรอยไปแทน
ด้วยความที่ไม่มีใครเคยจับได้ หลังจากนั้นทุกครั้งที่ Ronald ไปก่อปัญหาอะไรเข้า Donald ก็จะไปออกรับแทนทั้งหมด และเมื่อ Ronald โดนจับข้อหาข่มขู่และทำร้ายภรรยา ก็เป็น Donald อีกเช่นเดิมที่เข้าไปมอบตัวและยอมติดคุกแทน ซึ่งตำรวจและศาลเองก็ไม่ได้สนใจจะตรวจสอบลายนิ้วมือของเขาว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าเขามีฝาแฝดอีกทั้งยังไม่คิดว่าจะมีใครยอมมาติดคุกแทนง่ายๆ แบบนี้
โชคร้ายที่ Ronald ตัวปัญหาไปก่อเรื่องขึ้นอีกจนได้และถูกจับเข้าจริงๆ เขาโดนข้อหาพยายามฆ่า ทำร้ายร่างกาย และลักขโมย รวมโทษจำคุกทั้งหมดเป็น 14 ปี พนักงานสืบสวนพยายามตั้งสมมุติฐานว่าเรื่องนี้เป็นการวางแผนอะไรระหว่างพี่น้องคู่นี้รึเปล่า แต่ก็พบว่าเหตุเกิดจากแค่ความรักของพี่น้อง (ในกรณีนี้น่าจะเป็นความรักของคนๆ เดียว ส่วนอีกคนเอาแต่ก่อเรื่อง) อย่างไรก็ตาม Donald เองก็ยังยืนยันว่า ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากรับโทษแทนทั้งหมดอยู่ดี

ฝาแฝดที่แต่งงานกับฝาแฝดและมีลูกเป็นฝาแฝด

twin-gifts-03
ที่มาภาพ babble

ฝาแฝดส่วนใหญ่ชอบที่จะทำอะไรด้วยกัน แต่ยังไงก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวกันบ้างให้แต่ละคนได้ทำอะไรตามใจโดยไม่ต้องรู้สึกอึดอัด แต่กรณีนี้ใช้ไม่ได้กับ Craig Sanders และ Mark Sanders ผู้ที่หมั้นและจัดงานแต่งงานกับสาวพี่น้องฝาแฝดในวันเดียวกัน ย้ายครอบครัวไปอาศัยอยู่ในบ้านติดกัน และคู่หนึ่งยังถึงกับมีลูกฝาแฝดเป็นของตัวเอง
เรื่องราวนี้ฟังดูเหมือนเป็นละครตลกที่ดูแก้เครียดเฉยๆ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง และความจริงแล้วเป็นเหล่าภรรยาฝาแฝดนั่นเองที่เป็นคนเสนอให้ทั้งสองคู่นี้ทำอะไรพร้อมๆ กัน
สองพี่น้อง Sanders  พบกับสองสาว Diane Nettemeier และ Darlene Nettemeier ในงานฝาแฝดประจำปีที่เมือง Twinsburg รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา Craig ตกหลุมรักกับ Diane ในขณะที่ Mark ตกหลุมรักกับ Darlene
twins-2-0113Craig และ Mark Sanders กับ Diane และ Darlene Nettemeier
ที่มาภาพ nydailynews

ทั้ง 4 คนไปออกเดทกับที่คาสิโนและชนะเงินรางวัลหลายพันเหรียญ จึงตัดสินใจกันว่า นี่เป็นสัญญาณอันดีและนำเงินที่ได้ไปซื้อแหวนหมั้นให้กับแฟนสาวเสียเลย และด้วยความที่ Diane กับ Darlene ไม่เคยอยู่แยกจากกัน ทั้งหมดจึงตัดสินใจจัดงานแต่งให้เป็นงานเดียวกับ และย้ายเข้าไปอยู่บ้านที่ติดกันที่ไม่มีรั้วเสียเลย
ต่อมา Diane และ Craig ก็ให้กำเนิดลูกชายฝาแฝด ส่วน Darlene และ Mark ก็มีลูกสาวที่ไม่ใช่ฝาแฝด 2 คน (ซึ่งก็ดูยังไงก็เหมือนฝาแฝดอยู่ดี) จนถึงตอนนี้ ทั้งหมดก็ยังไปร่วมงานเทศกาลฝาแฝดทุกๆ ปี และแน่นอนว่าทำเอาเพื่อนบ้านหัวหมุนว่าใครเป็นใครกันอยู่ทุกวัน
twins-marrying-460_779941c
ที่มาภาพ telegraph

ฝาแฝดผู้ไม่ยอมพูด

no-voice
ที่มาภาพ whooalrightyeah

Jennifer Gibbons และ June Gibbons มีชื่อเสียงขึ้นมาในช่วงปี ค.ศ.1980 เมื่อทั้งคู่ได้ไปก่ออาชญกรรมขึ้นเมื่ออายุได้เพียง 18 ปี ส่งผลให้ทั้งคู่ถูกวินัยฉัยว่าเป็นโรคทางจิตเวชและถูกส่งไปยังโรงพยาบาลโรคจิตที่มีระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่นที่สุดในประเทศอังกฤษ แต่เรื่องราวแปลกๆ ของทั้งคู่เริ่มตั้งแต่ตอนเด็กๆ ทั้งสองเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “The silent twins” เพราะพวกเธอไม่ยอมคุยกับคนอื่นเลยนอกจากคุยกันเองสองคน ถึงขนาดมีภาษาเฉพาะที่ใช้คุยกันและไม่มีใครฟังรู้เรื่อง
SilentTwin_mainimage_forwebJennifer Gibbons และ June Gibbons
ที่มาภาพ almeida

เติบโตขึ้นมาในเวลส์ เวลาอยู่ที่โรงเรียนทั้ง Jennifer และ June ไม่ยอมอ่าน พูด หรือเขียนอะไร แต่เมื่ออยู่ที่บ้าน ทั้งสองอ่านหนังสือเป็นจำนวนมากหลากหลายประเภท อีกทั้งยังเขียนไดอารี และแต่งนิยายในชื่อว่า “The Pepsi-Cola Addict and Discomania
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ออกจะสลับซับซ้อน ถึงแม้ทั้งคู่จะสนิทกันมาก แต่บางครั้งทั้งสองก็พยายามจะฆ่ากันเอง ครั้งหนึ่ง Jennifer รัดคอ June ด้วยสายไฟจากวิทยุ ส่วนอีกครั้ง June ก็ผลัก Jennifer ตกจากสะพานเพื่อหวังให้จมน้ำ พฤติกรรมแปลกๆ แบบนี้ติดตัวไปจนถึงเมื่อโตและในที่สุดก็กลายเป็นนิสัยขี้ขโมยและชอบวางเพลิง ถึงตอนนี้พ่อแม่ก็ต้องยอมส่งตัวลูกสาวทั้งสองไปอยู่ในโรงพยาบาลประสาท
เป็นเวลา 14 ปีกว่าที่ทั้งคู่อยู่ในโรงพยาบาล Broadmoor Hospital ถึงได้ยอมเปิดใจพูดกับ Marjorie Wallace นักข่าวซึ่งตีพิมพ์หนังสือชีวประวัติของพวกเธอว่า ใครคนใดคนหนึ่งจะต้องตายในโรงพยาบาลนี้ และทั้งคู่ได้ตัดสินใจกันแล้วว่า คนนั้นก็คือ Jennifer
64101.gif“The silent twins” หนังสือชีวประวัติของทั้งคู่

ที่มาภาพ rankopedia

อาจจะเป็นได้ว่าทั้งคู่รู้ดีว่า พวกเธอไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ได้แบบปกติสุขถ้าอยู่กันเป็นคู่ และอ้างอิงจากคำสัมภาษณ์โดย Wallace สรุปได้ว่า Jennifer ตกลงที่จะเป็นคนที่ตาย และด้วยความอังเอิญหรืออย่างไรก็ไม่อาจรู้ได้ ในวันที่ทั้งสองจะได้ย้ายไปอยู่โรงพยาบาลที่ระบบคุ้มกันแน่นหนาน้อยกว่า Jennifer ก็เสียชีวิตกระทันหันจากโรคหัวใจที่หาได้ยาก ส่วน June ปัจจุบันนี้ก็อาศัยอยู่อย่างสงบกับครอบครัวของเธอ

ที่มา Crackedที่มาภาพประกอบ national geographic
แปลและเรียบเรียงโดย
ทีมงาน everyday-readers.com

วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2556


แบบฝึกหัด บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ


บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ                                                                  กลุ่มเรียนที่ 1

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                    รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล  นางสาวพิมพ์กนก  ภูจอมจิตร  รหัสนิสิต 55011315043 วิชาเอก LH     ระบบปกติ

 คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
      1.จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
          ตอบ การจัดการสารสนเทศ เพื่อให้ได้สารสนเทศที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ สามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะต้องมีขั้นตอนการจัดการที่ดีและเป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่ การรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบข้อมูล  การประมวลผลข้อมูล  และการดูแลรักษา

     2.การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต้อบุคคลและองค์การอย่างไร
        ตอบ มีความสำคัญต่อบุคคลที่จะช่วย ใช่ในการตัดสินใจภายในองค์การ เมื่อมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วจำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูล  เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง  ข้อมูลที่เก็บเข้าในระบบจะต้องมีความเชื่อถือได้  หากพบที่ผิดพลาดต้องแก้ไข  ทั้งนี้ข้อมูลที่ถูกต้องจะส่งผลทำให้สารสนเทศที่ได้มีความถูกต้องน่าเชื่อถือ นำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

     3.พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
        ตอบ พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็น 2 ยุค ได้แก่
       1. การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ เป็นการจัดการสารสนเทศระยะแรก  การจัดการสารสนเทศเน้นระบบ  มือ โดยรวบรวมรายชื่อหนังสือที่มีการผลิตและเผยแพร่ และการจัดเก็บเอกสารระยะแรก เป็นการจัดเรียงตามขนาดของรูปเล่มหนังสือ ตามอักษรผู้แต่ง เรื่อหนังสือ เลยทะเบียน ตามลำดับก่อนหลัง
       2. การจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อสารสนเทศมีปริมาณมาก จากเดิมจัดเก็บในลักษณะแฟ้มข้อมูล ต่อมาได้เริ่มพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูล เพื่อเอื้อต่อการจัดการสารสนเทศได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และลดความซ้ำซ้อน

     4.จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
        ตอบ   1.การจัดการสารสนเทศด้านการศึกษา การหาข้อมูลเพื่อการศึกษา สามารถเรียนเรียนรู้ได้ตลอดเวลาตามความสนใจ
                  2.การจัดการสารสนเทศด้านข้อมูลข่าวสาร สามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านฐานข้อมูลหรือเครือข่ายอินเทอเน็ต
                  3.การจัดการสารสนเทศด้านพาณิชย์ สามารถสั่งซื้อของบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ได้ออกไปซื้อเองที่หน้าร้าน ทำให้สะดวกมากขึ้น

 แบบฝึกหัด บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม

บทที่ 2 บทบาทสารสนเทศกับสังคม                                                            กลุ่มเรียนที่ 1
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน                                รหัสวิชา 0026 008
ชื่อ - สกุล  นางสาวพิมพ์กนก  ภูจอมจิตร  รหัสนิสิต 55011315043   วิชาเอก LH     ระบบปกติ

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้
 1. ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซต์หรือเทคโนโลยีให้บริการต่างๆตามหัวข้อต่อไปนี้มาอย่างละ 3 รายการ
    1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา         
          ตอบ  1. http://www.thaiebook.org/  เป็นแหล่งรวบรวม E Book
                   2. http://cptd.chandra.ac.th/selfstud/it4life/intro.htm   เป็นแหล่งรวบรวมความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
                   3. http://www.oknation.net/blog/knownledgelaw/2007/09/01/entry-2  เป็นแหล่งรวบรวมความรู้เกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมาย

    1.2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
          ตอบ 1. http://www.thunhoon.com/home/  เป็นเว็บวิเคราะห์หุ้น
                  2.  http://www.pickmeeasy.com/th/hot-topics/exchange.html  เป็นเว็บอัตราแลกเปลี่ยนประจำวัน
                  3 . http://www.goldtraders.or.th/gold_day.php เว็บสมาคมค้าทอง

    1.3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่่อสารมวลชน
          ตอบ 1. http://www.thairath.co.th/  เว็บหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
                  2. http://www.dailynews.co.th/ เว็บหนังสื่อพิมพ์เดลินิวส์
                  3. http://www.komchadluek.net/index.php เว็บหนังสื่อพิมพ์คมชัดลึก

    1.4 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรม
          ตอบ 1. http://teenet.tei.or.th/DatabaseGIS/amatanakorn.html  เว็บรวบรวมโรงงานต่างๆในอมตะนคร
                  2. http://www.industry.go.th/page/index.aspx เว็บของกระทรวงอุตสาหกรรม
                  3. http://www.dip.go.th/ เว็บของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

    1.5 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
          ตอบ 1. http://www.samunpri.com/ เว็บสมุนไพรไทย
                  2. http://www.bangkokhospital.com/ เว็บโรงพยาบาลกรุงเทพ
                  3. http://health.kapook.com/ เว็บรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ

    1.6 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทหารตำรวจ
          ตอบ 1. http://befreshstudio.com/udomsuk/send.php เว็บแจ้งความออนไลน์
                  2. http://www.rpca.ac.th/ เว็บโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
                  3. http://www.moj.go.th/th/cms/detail.php?id=429 เว็บที่รวบรวมกฎหมายเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน

    1.7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
          ตอบ 1. http://www.coe.or.th/e_engineers/coeindex.php เว็บสภาวิศวกรรม
                  2. http://www.ceat.or.th/2010/index.php เว็บสมาคมวิศวกรรมปรึกษาแห่งประเทศไทย
                  3. http://www.civilclub.net/ เว็บรวบรวมข้อมูลต่างๆเกียวกับวิศวกรรม

    1.8 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านเกษตรกรรม
          ตอบ 1. http://www.kasetporpeang.com/  เว็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกษตรพอเพียง
                  2. http://krudaeng.wikispaces.com/ เว็บรวบรวมความรู้ต่างๆเกี่ยวกับดิน
                  3. http://www.skywaterthai.com/001.html เว็บรวบรวมความรู้ต่างๆเกี่ยวกับเรื่องน้ำ

    1.9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
          ตอบ 1. http://www.healthyability.com/new_version5/ เว็บสร้างเสริมสุขภาพผู้พิการไทย
                   2. http://www.ddc.go.th/ เว็บศูนย์พัฒนาอาชีพผู้พิการ
                   3. http://www.blind.or.th/ เว็บมูลนิธิช่วยคนตาบอลแห่งประเทศไทย

2. มหาวิทยาลัยมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่านมีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 ข้อ   
          ตอบ   1. กระจายสัญญาณ Wi-Fi ทั่วมหาวิทยาลัย
                    2. จุดบริการใช้คอมพิวเตอร์สืบค้นฟรี
                    3. ฐานข้อมูลต่างๆ

3. ข้อ 2 จงเคราะห์ว่าท่านจะเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่างไรบ้าง  
 ตอบ ใช้ค้นหาข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการศึกษา สามารถนำความรู้มาประยุกต์ต่อยอดให้มีประสิทธิภาพ
นอก จากนั้นเทคโนโลยีสมัยใหม่ยังเป็นพื้นที่ในการแสดงออกของทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยไม่จำกัดสิทธิ์เพียงแต่ต้องใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม การที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นทำให้กระแสสังคมเปลี่ยน แปลงไปทั้งเชิงบวกและเชิงลบ จึงต้องคอยแนะนำและศึกษาการใช้งานให้ถูกต้องถ่องแท้สอดคล้องกับจุดประสงค์ ของเทคโนโลยีต่างๆ  ส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าใช้เทคโนโลยีมากที่สุดในด้านการศึกษาและการหาทักษะความ รู้เพิ่มเติมตลอดจนสิ่งที่น่าสนใจและกระแสสังคมต่างๆที่เผยแพร่กันอย่างแพร่ หลาย